ผู้บริหารต้อง ..
ต้องรอบรู้ ปัญหา สารพัดต้องรวดเร็ว เร่งรัด งานทั้งหลาย
ต้องริเริ่ม หลายแบบ ให้แยบคาย
ทุ่มใจกาย สุดชีวิต พิชิตงาน
หน้านอก-ในหน้านอก บอกความงามต้องรอบรู้ ปัญหา สารพัดต้องรวดเร็ว เร่งรัด งานทั้งหลาย
ต้องริเริ่ม หลายแบบ ให้แยบคาย
ทุ่มใจกาย สุดชีวิต พิชิตงาน
หน้าใน บอกความดี
หน้าที่ บอกความสามารถ
หน้านอก แต่งให้พอดี
หน้าในและหน้าที่ แต่งให้มากๆ
บางครั้ง..ยอมโง่เพื่อศึกษาหาความรู้จากผู้เชี่ยวชาญโง่ไม่เป็นเป็นใหญ่ยากฝากให้คิด ทางชีวิตจะรุ่งโรจน์โสตถิผล
ต้องรู้โง่รู้ฉลาดปราชญ์เปรื่องตน โง่สิบหนดีกว่าเบ่งเก่งหนเดียว
นักบริหารต้องหัดมองด้านในโลกภายนอกกว้างไกลใครใครรู้ โลกภายในลึกซึ้งอยู่รู้บ้างไหม
จะมองโลกภายนอกมองออกไป จะมองโลกภายในให้มองตน
เมื่อฉันยังไม่เริ่มทำงาน
ฉันคือคนเกียจคร้าน
เมื่อนายยังไม่เริ่มทำงาน เขามีธุระ
เมื่องานของฉันต้องใช้เวลา ฉันกลายเป็นคนเฉื่อยช้า
เมื่อเจ้านายทำงานช้า เขาเป็นผู้ละเอียดรอบคอบ
เมื่อฉันทำงานที่ไม่ได้รับคำสั่ง ฉันก้าวก่ายเกินหน้าที่
เมื่อเจ้านายทำบ้าง มันกลายเป็นความคิดริเริ่ม
เมื่อฉันยืนหยัดคัดค้าน ฉันกลายเป็นไอ้งั่ง
เมื่อเจ้านายเถียง เขากำลังเป็นผู้เข้มแข็ง
เมื่อฉันไม่ระวังมารยาท ฉันคือคนหยาบคาย
เมื่อเจ้านายไร้มารยาท มันคือบุคลิกของเขา
เมื่อฉันเอาใจผู้ใหญ่ ฉันกลายเป็นตลกบริโภค
เมื่อเจ้านายเลียผู้ใหญ่ นั่นคือการมีมนุษยสัมพันธ์
เมื่อฉันทำงานก้าวหน้า มักถูกเตือนว่าล้ำเส้น
เมื่อเจ้านายทำงานเอาหน้า ถือว่าเป็นความพากเพียร
เมื่อฉันทำงานพลาด ฉันคือคนสะเพร่า
เมื่อเจ้านายทำผิด เขาถือเป็นประสบการณ์
เมื่อฉันลืมทำบางสิ่ง ฉันเป็นผู้ละทิ้งหน้าที่
เมื่อเจ้านายเผลอเรอ ต้องทำใจว่าเขามีงานล้นมือ
เราสอนเด็ก ให้ยึดถือ ความสัตย์
สารพัด งานอะไร ให้ใจสู้
ให้เคารพ ทั้งพ่อแม่ และคุณครู
ให้เด็กรู้ ทางชีวิต คิดปรับตน
ฉันเยาว์..ฉันเขลา..ฉันทึ่ง
ฉันจึงมาหาความหมายเมื่อนายยังไม่เริ่มทำงาน เขามีธุระ
เมื่องานของฉันต้องใช้เวลา ฉันกลายเป็นคนเฉื่อยช้า
เมื่อเจ้านายทำงานช้า เขาเป็นผู้ละเอียดรอบคอบ
เมื่อฉันทำงานที่ไม่ได้รับคำสั่ง ฉันก้าวก่ายเกินหน้าที่
เมื่อเจ้านายทำบ้าง มันกลายเป็นความคิดริเริ่ม
เมื่อฉันยืนหยัดคัดค้าน ฉันกลายเป็นไอ้งั่ง
เมื่อเจ้านายเถียง เขากำลังเป็นผู้เข้มแข็ง
เมื่อฉันไม่ระวังมารยาท ฉันคือคนหยาบคาย
เมื่อเจ้านายไร้มารยาท มันคือบุคลิกของเขา
เมื่อฉันเอาใจผู้ใหญ่ ฉันกลายเป็นตลกบริโภค
เมื่อเจ้านายเลียผู้ใหญ่ นั่นคือการมีมนุษยสัมพันธ์
เมื่อฉันทำงานก้าวหน้า มักถูกเตือนว่าล้ำเส้น
เมื่อเจ้านายทำงานเอาหน้า ถือว่าเป็นความพากเพียร
เมื่อฉันทำงานพลาด ฉันคือคนสะเพร่า
เมื่อเจ้านายทำผิด เขาถือเป็นประสบการณ์
เมื่อฉันลืมทำบางสิ่ง ฉันเป็นผู้ละทิ้งหน้าที่
เมื่อเจ้านายเผลอเรอ ต้องทำใจว่าเขามีงานล้นมือ
เราสอนเด็ก ให้ยึดถือ ความสัตย์
สารพัด งานอะไร ให้ใจสู้
ให้เคารพ ทั้งพ่อแม่ และคุณครู
ให้เด็กรู้ ทางชีวิต คิดปรับตน
ฉันหวังเก็บอะไรไปมากมาย สุดท้ายให้กระดาษฉันแผ่นเดียว
หวังเพียงจะเฟื่องฟุ้ง... ฤาจะมุ่งการศึกษา........
เพียงเพื่อ...ปริญญา เอาตัวรอดเท่านั้นฤา
แท้ควร......สหายคิด จงตั้งจิต...มั่นยึดถือ
รับใช้....ประชาคือ ปลายทางเราที่เล่าเรียน
อันโรงเรียน ทั่วไป ในประเทศ
ต่างประเภท ต่างชั้น กันหนักหนา
ตั้งแต่ตึก สูงงาม อร่ามตา
จนกระทั่ง หลังคา ใบตองตรึง
โรงเรียนเล็ก หรือใหญ่ เป็นไรเล่า
ถ้าครูเอา ใจใส่ ได้ทั่วถึง
พบครูดี ทีไร ใจคะนึง
ว่าเมืองไทย ได้หนึ่ง โรงเรียนดี
ม.ล. ปิ่น มาลากุล
โรงเรียนดี
โรงเรียนสวย สะอาดตา และร่มรื่น
เด็กสดชื่น แต่งกายดี มีอาหาร
ครูมีเกียรติ ในวิชาชีพ มุ่งทำงาน
วินัยดี คือพื้นฐาน การสร้างคน
โรงเรียนวัดสมุหประดิษฐ์ (วันครู ๒๕๐๑)
สมุหประดิษฐ์ เป็นสถาน บ้านความรู้
สมุหประดิษฐ์ เป็นที่อยู่ แสนหรรษา
สมุหประดิษฐ์ เป็นแหล่งอบรม จริยา
สมุหประดิษฐ์ เป็นแหล่งพัฒนา คุณค่าคน
ลูกใครไม่สำคัญ
ลูกใครไม่สำคัญ ศิษย์ฉันนั้นคือลูก
ฟูมฟักรักพันผูก จะสอนลูกเป็นคนดี
งานเกษียณอายุราชการ
วิภา พักตร์ดุจดั่ง ศศิฉาย ดา -รดาษนาดกราย ดั่งสิงห์วงศ์ ตระกูลจรูญราย โชติช่วง ชัชแฮ ช่วย อำนวยพรมิ่ง มอบไว้วัยเกษียณคือกัปตันเรือใหญ่ใจกล้าแกร่ง แม้คลื่นแรงเพียงใดไม่หวั่นไหวนำครุนาวาฝ่าฟันไป ถึงฝั่งฝันอันยิ่งใหญ่ด้วยใจทะนงคือผู้นำการศึกษากล้าความคิด มีวินิจพิจารณาไม่ไหลหลงเร็วกระชับฉับไวไม่พะวง เป้าหมายตรงความสัมฤทธิ์ผลทวีกาลเกษียณเวียนมาถึงคราแล้ว หทัยแว่วเหล่าลูกเรือให้โศกศรีเรือลำใหญ่ไร้กัปตันประจำที่ ต่อแต่นี้ใครเล่าเฝ้าดูแลขอพระคุณพระไตรรัตน์ขจัดทุกข์ บำรุงสุขให้ยืนยั้งดั่งดวงแขจตุรพิธพรใดในดวงแด ขออวยพรมอบแด่ ผอ.เอย
งานเกษียณอายุราชการ นางวิภาดา วงศ์ช่วย
ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 2 (บ้านหาดใหญ่)/ทศพรรษ
พชร
จะเป็นหัวหน้า
ต้องมีคุณธรรม
จะเป็นผู้นำ
ต้องมีคุณวุฒิ
จะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ต้องมีความกล้าหาญจะเป็นประธาน
ต้องเชี่ยวชาญความดี
จะเป็นนายกทั้งที
ต้องดีทั้งนอกทั้งใน
สุภาษิตสอนนาย (ภาคพิสดาร)สุภาษิตก่อนเก่าเขาเล่าขาน มาแต่ครั้งโบราณนานมากหลาย
เป็นคำกลอนสอนสั่งทั้งหญิงชาย แต่ “สุภาษิตสอนนาย” ไม่ยักมี
หากโชคช่วยอำนวยให้เป็นนายเขา อย่าทำเป็นหูเบาไม่ถ้วนถี่
อย่าจับความข้างเดียวไม่พาที เพราะความจริงหากไม่มีจะเสียการ
นายที่ดีต้องเอาใจใส่ลูกน้อง คอยสอดส่องทุกข์สุขอยู่ทุกด้าน
รู้ข่าวสารแม้ลูกน้องไม่ต้องการ แต่ไม่ถึงกับจุ้นจ้านจนเกินควร
หากลูกน้องทำผิดไม่คิดข่ม พิจารณาความเหมาะสมโดยถ้วนทั่ว
กล้าตัดสินเรื่องนั้นไม่เกรงกลัว ไม่คิดมั่วรวมเรื่องเก่าเข้าประจาน
อันการตักเตือนนั้นให้เข้าท่า ไม่ควรดุต่อหน้าคนทั้งบ้าน
ควรเรียกเตือนสองต่อสองห้องทำงาน ลูกน้องจะสะท้านแต่ยอมรับ
เป็นนายเขาควรมีข้อมูลแน่น สังเกตอ่านฟังและเห็นทุกสิ่งสรรพ
อย่าฟังแต่คนใกล้ตัวมั่วผลลัพธ์ เปิดใจรับหลายความเห็นเป็นการดี
อันงานการทั้งหลายควรจ่ายแจก ควรจำแนกตามถนัดและหน้าที่
ทำคนเดียวจะไม่ไหวใครว่าดี ลูกน้องมีให้เขาช่วยด้วยหัวใจ
เป็นนายเขาต้องขยันหมั่นศึกษา สิ่งรอบด้านล้วนก้าวหน้าทันสมัย
อย่าขี้เกียจเรียนรู้จนเกินไป เดี๋ยวลูกน้องจะก้าวไกลตามไม่ทัน
หากลูกน้องจะก้าวหน้าอย่าหน่วงเหนี่ยว อย่าอิจฉาตาเขียวเข้าขวางกั้น
ลูกน้องดีเพราะหัวหน้ากล้าผลักดัน ลูกน้องนั้นจะรู้สึกสำนึกพระคุณ
หากได้รับส่วนแบ่งไม่แย่งก่อน ทั้งไปนอกทุนรอนเงินอุดหนุน
ไม่คิดงก รวบและรั้งหวังเก็บตุน ควรเจือจุนให้ลูกน้องครองของดี
เจ้านายควรมีเมตตาเป็นอาวุธ เอื้ออวยสุขบริสุทธิ์อย่างเต็มที่
มีกรุณาคอยช่วยเหลือเกื้อปรานี ให้เขาหนีห่างทุกข์เป็นสุขใจ
ประกอบกับมีมุทิตาคือพาชื่น เห็นคนอื่นก้าวหน้าพาสดใส
ไม่มัวคิดริษยาพาเสียใจ เขาทำได้ดีกว่าอย่าปรารมภ์
ทั้งต้องมีอุเบกขาไม่อาฆาต เห็นลูกน้องผิดพลาดไม่ทับถม
ใจเที่ยงธรรมไม่เอียงเอนเล่นคารม ปฏิบัติตนเหมาะสมอุดมการณ์
เจ้านายดีต้องครองงานสืบสานผล เจ้านายดีต้องครองคนสัมพันธ์ประสาน
เจ้านายดีต้องครองตนเหมาะประมาณ นี่แหละคือปณิธาน "เจ้านายดี"
แด่ผู้เกษียณราชการทุกท่าน
ถึงวันหนึ่ง ทุกคน จะได้พบ เวียนมาครบ วันสุดท้าย หายกังขา
สิ่งเคยทำ
จำต้องงด หมดเวลา คนคบหา
ก็จะห่าง จากทางเดิม
ใครคิดดี
ทำดี ไม่มีพลาด คนชั่วช้า
บ้าอำนาจ ขาดสิ่งเสริม
เมื่อหมดยศ
หมดอำนาจ ไม่อาจเติม ทำดีเพิ่ม
สักเท่าไร ก็ไม่ทัน
คนจะชัง
รังเกียจ ต้องเครียดจัด สารพัด
ปัญหา พาหุนหัน
หลงระเริง
มัวเมา มานานวัน ถึงวันนั้น
วันสุดท้าย ได้เห็นธรรม
หากคิดดี
ทำดี เป็นศรีศักดิ์ คนจะรัก
จริงใจ ไม่แอบขำ
ปรากฎอ้าง
สร้างชื่อ ให้จดจำ ทั้งน้อมนำ
นบคำนับ ชั่วกัปกาล
แด่
ผู้จะเกษียณอายุราชการ 30 กันยายน 2554 ทุกท่านปัญญา
ธูปหอม ประพันธ์
หลักการทำงาน
รักจริง อิงหลัก ปักป้าย ใช้มือ ถือสี่ ดีพร้อม
ยอมบ้าง ช่างเขียน เรียนรู้ สู้งาน
เสียงสะท้อนครู
ห้าสิบปีพ้นผ่าน บนกบาลล้านและหงอก
เป็นครูอยู่บ้านนอก ถูกขังคอกปลอกกฎหมาย
ต้องทำตามขั้นตอน คำสั่งสอนของเจ้านาย
ให้ยึดนโยบาย มุ่งขวนขวายชั่วชีวิต
เปลี่ยนแปลงตลอดไป มิสนใจถูกหรือผิด
ประกาศประกาศิต ตามลิขิตของเวรกรรม
กระทรวงการศึกษาฯ อดีตมาช่างน่าขำ
หนึ่งปีสี่ผู้นำ ผลัดกันยำย่ำยีครู
ผันงบเข้ากระเป๋า เอานมเน่าให้หนูหนู
ตั้งเป้าเกรดหรูหรู บังคับครูอยู่ร่ำไป
ทำให้ครูต้องเครียด มาเบียนเบียดครูใช่ไหม
ครูดีเออรี่ไป ครูเหลวไหลกลับก้าวหน้า
ครูดีเฝ้าพร่ำสอน ครูกะล่อนเฝ้าไขว่คว้า
เอาแต่พิมพ์ตำรา ไม่นำพาเด็กตาดำ
เป้าครูสัมฤทธิ์ผล เป้าเด็กตนกลับตกต่ำ
เขียนอ่านไม่เป็นคำ โอ้เป็นกรรมของเด็กไทย
คศ.3
คนทำเอง ส่งไป มักไม่ผ่าน
มิชำนาญ งานวิจัย ให้สับสน
ผู้จ้างเขา เหมาหมด ปดเบื้องบน
เป็นยอดคน ผ่านฉลุย คุยระบือ
พวกเราอยาก ได้ครู รู้การสอน
หรืออยากได้ ครูกะล่อน ปลิ้นปล้อนหรือ
เน้นประเมิน เล่มวิจัย ถูกไหมฤา
สอนหนังสือ ควรเจนจัด นวัตกรรม
เคยหลงผิด คิดใหม่ ยังไม่สาย
จุดมุ่งหมาย ภายหน้า อย่าถลำ
มิได้สอน มหาลัย อย่าใจดำ
อย่าเน้นทำ เล่มวิจัย ต่อไปเลย
krupanya s
จริยธรรมผู้บริหาร
นภาจรี นำเบญจพล
ผู้นำคือหัวใจการบริหาร ผู้ประสานสิบทิศจิตกร้าวแกร่ง
วิสัยทัศน์ต้องก้าวไกลมีไฟแรง ทำงานแข่งเวลาพัฒนาตน
ยึดหลักจริยธรรมนำชีวิต เคารพสิทธิ์สร้างประโยชน์เกิดก่อผล
รักลูกน้องเอื้อเฟื้อช่วยเหลือชน มองทุกคนอย่างเห็นค่าเมตตาธรรม
แนวปฏิบัติผู้นำ
ให้เป็นคน ก้าวหน้า ทันสมัย
ไม่ล้าหลัง ห่างเหิน จนเกินไป
ลูกน้องก้าว หน้าไกล ตามไม่ทัน
ไม่จำเป็น ต้องศึกษา มากกว่าเขา
ให้เป็นหลัก พอเป็นเค้า เขาเชื่อมั่น
แม้เป็นนาย รู้จักใช้ สบายครัน
ไม่จำเป็น ต้องฟาดฟัน
อยู่คนเดียว
ผู้จัดการและผู้นำ
ผู้จัดการบริหารเพียงตามกรอบ
ผู้นำชอบค้นคว้าหาสิ่งใหม่
ผู้จัดการคอยอิงแอบเลียนแบบใคร ผู้นำไซร้ชอบเป็นคนต้นแบบเอง
ผู้จัดการคงสิ่งเก่าเอาไว้มั่น ผู้นำนั้นพัฒนานำหน้าเก่ง
ผู้จัดการยึดระบบไว้ให้ยำเกรง ผู้นำเก่งมุ่งบุคคลล้นศรัทธา
ผู้จัดการคอยควบคุมอย่างเข้มแข็ง ผู้นำแกร่งไว้วางใจให้คุณค่า
ผู้จัดการคิดแค่ใกล้ไม่นำพา ผู้นำกล้าคิดให้กว้างไกลพอ
ผู้จัดการถามอย่างไรและเมื่อไหร่ ผู้นำถามอะไรทำไมหนอ
ผู้จัดการมองเพียงผ่านผลงานพอ
ผู้นำมองไกลลึกต่อจากผลงาน
ผู้จัดการรับสภาพกำหนดได้ ผู้นำใคร่ครวญริเริ่มเสริมทุกด้าน
ตามระเบียบวินัยชัดผู้จัดการ เป็นตัวของตัวเองนั้นคือผู้นำ
จะกระทำสิ่งใดในใต้หล้า
ผู้จัดการเพียงตั้งหน้าให้ถูกต้อง
ส่วนผู้นำกำหนดกฎครรลอง
ทำแต่สิ่งที่ถูกต้องตลอดไป
The Leader & The Manager
The Leader & The Manager
THE LEADER
INNOVATES. THE MANAGER IS A
COPIER;
THE LEADER
IS AN ORIGINAL. THE MANAGER MAINTAINS;
THE LEADER
DEVELOPS. THE MANAGER FOCUSES ON SYSTEMS AND
STRUCTURE;
THE LEADER
FOCUSES ON PEOPLE. THE MANAGER RELIES ON
CONTROL;
THE LEADER
INSPIRES TRUST. THE MANAGER HAS A SHORT-RANGE
VIEW;
THE LEADER
HAS A LONG-RANGE PERSPECTIVE. THE MANAGER ASKS HOW AND
WHEN;
THE LEADER
ASKS WHAT AND WHY. THE MANAGER HAS HIS EYE ON THE BOTTOM
LINE;
THE LEADER
HAS HIS EYE ON THE HORIZON. THE MANAGER ACCEPTS THE STATUS
QUO;
THE LEADER
CHALLENGES IT. THE MANAGER IS THE CLASSIC
GOOD SOLDIERS;
THE LEADER
IS HIS OWN PERSON. THE MANAGER DOES THINGS
RIGHT;
THE LEADER
DOES THE RIGHT THINGS.
TRAINING MAY 1990 THE MAGAZINE OF HUMAN RESOURCE DEVELPOMENT
TRAINING MAY 1990 THE MAGAZINE OF HUMAN RESOURCE DEVELPOMENT
เจ้านายกับผู้นำ (กลอนผู้บริหาร)
WHO’S BOSS
THE BOSS DRIVES HIS
MEN THE LEADER COACHES
THEM
THE BOSS DEPENDS ON
AUTHORITY THE LEADER ON GOODWILL
THE BOSS GENERATES
FEAR THE LEADER INSPIRES ENTHUSIASM
THE BOSS FIXES THE BLAME FOR THE
BREAKDOWN THE LEADER FIXES
IT
THE BOSS KNOWS HOW IT’S
DONE THE LEADER SHOWS HOW OTHER CAN DO
IT
THE BOSS MAKES WORK A
TASK THE LEADER MAKES WORK A CHALLENGE
THE BOSS SAYS
“GO” THE LEADER SAYS “LET’S GO”
เจ้านายและผู้นำเจ้านายจ้องคอยจับบังคับให้ ลูกน้องทำงานไปตามคำสั่ง
ผู้นำสอนชี้แนะเพิ่มเสริมพลัง
แนะแนวทางลูกน้องตามความร่วมมือ
เจ้านายชอบใช้อำนาจหน้าที่ย้ำ
ส่วนผู้นำใช้ศรัทธาน่าเชื่อถือ
เจ้านายสร้างความกลัวล้นจนเลื่องลือ ผู้นำสร้างความกระตือรือร้นดี
เจ้านายติตำหนิย้ำเมื่อทำพลาด ผู้นำพร้อมสามารถช่วยแก้ไข
เจ้านายรู้งานนั้นทำอย่างไร ผู้นำให้คนอื่นเห็นทำเป็นจริง
เจ้านายทำงานเล็กให้ใหญ่โตนัก ผู้นำจักทำให้หมายท้าทายยิ่ง
เจ้านายเน้นตรงไปให้เสร็จจริง ผู้นำอิงการชวนให้เราไปกัน
การจัดการความรู้
ขอกล่าวสุนทร เป็นกลอนโมเด็ม
เล่าเรื่องเคเอ็ม เติมเต็มหลากหลาย
จัดการความรู้ มีอยู่มากมาย
กระจัดกระจาย มาไว้ใช้กัน
ความรู้ทั้งผอง มีสองชนิด
หนึ่ง เรียกทาสิต ฝังติดตนนั่น
เป็นภูมิปัญญา คุณค่าอนันต์
เราต้องจัดสรร ดึงมันออกมา
สอง เอ็กพลีสิต เป็นทฤษฏี
ความรู้เหล่านี้ เด่นชัดหนักหนา
อยู่ในคู่มือ หนังสือตำรา
เอกสารวิชา ค้นคว้ามาดู
การวางแผน
“นายมีโค่นไผ่ นายใจขุดหลุม
นายชั้นนายชุ่ม คุมกันไปเกี่ยวแฝก
เสร็จแล้วเกลาเสา เอาโว้ยย้ายแยก
เลิกงานข้าจะแจก ของแปลกแปลกให้กิน”
ผู้นำและภาวะผู้นำ
ธิติพงศ์ มาสี
ภาษิตของเก่าเขาเล่าขาน
มาแต่ครั้งโบราณมีมากมายธิติพงศ์ มาสี
เป็นคำกลอนสอนสั่งทั้งชายหญิง สุภาษิตสอนนายไม่เห็นมี
แม้โชคช่วยอำนวยเป็นนายเขา อย่าเป็นคนหูเบาไม่ถ้วนถี่
จับเอาความข้างเดียวเที่ยวพาที หากความจริงไม่มีจะเสียการ
นายที่ดีต้องเอาใจใส่ลูกน้อง คอยสอดส่องทุกข์สุขอยู่ทุกด้าน
คอยช่วยเหลือแม้ลูกน้องนั้นต้องการ แต่ไม่ถึงจุ้นจ้านจนเกินควร
แม้ลูกน้องทำผิดไม่คิดข่ม พิจารณาเหมาะสมโดยทั่วถ้วน
จึงเรียกมาว่ากล่าวเท่าที่ควร ไม่ลามรวนเรื่องเก่าไม่เข้าการ
อันการเตือนนั้นเหล่าไม่เข้าท่า ไม่ควรดุต่อหน้าคนทั้งบ้าน
เรียกไปเตือนสองต่อสองห้องทำงาน เที่ยวโจษขานลับหลังฟังไม่งาม
งานสำเร็จลงด้วยเขาช่วยกัน ไม่ควรดื้อถือรั้นไม่ฟังห้าม
เป็นนายเขาเอาแต่ใจใครก็ตาม ควรฟังความเห็นอื่นบ้างเป็นทางดี
อันการงานทั้งหลายควรจ่ายแจก มีการจัดแบ่งแยกเป็นหน้าที่
หากคนเดียวจะรับไว้ไม่เข้าที ลูกน้องที่ไหนจะมีกำลังใจ
เป็นนายเขาต้องขยันหมั่นศึกษา ดูให้ก้าวหน้าทันสมัย
ไม่ล้าหลังห่างเหินจนเกินไป ลูกน้องก้าวหน้าไกลตามไม่ทัน
ไม่จำเป็นต้องศึกษามากกว่าเขา ให้รู้หลักพอเป็นเค้าเขาเชื่อมั่น
แม้เป็นนายรู้จักใช้สบายครัน ไม่จำเป็นต้องฟาดฟันอยู่คนเดียว
เมื่อลูกน้องจะก้าวหน้าก็อย่าขวาง หรือคิดหาลู่ทางคอยหน่วงเหนี่ยว
อยากจะเก่งเลิศล้นอยู่คนเดียว แล้วหน่วงเหนี่ยวกันน่าพาเสียคน
ไม่คิดแต่จะเอาเข้ากระเป๋าตน คิดถึงคนอื่นเขาจึงเข้าการ
อันหัวหน้าที่ดีมีเมตตา ปรารถนาให้เขาสุขทุกสถาน
มีกรุณาคอยช่วยด้วยต้องการ ให้เบาผ่านพ้นทุกข์มีสุขใจ
ประกอบกับมุฑิตาคือพาขึ้น เห็นคนก้าวหน้าพาสดใส
ไม่มัวคิดริษยาพาเสียใจ เขาทำได้ดีกว่าผิดอารมณ์
อีกทั้งอุเบกขาไม่อาฆาต เห็นลูกน้องผิดพลาดไม่ทับถม
คอยจับผิดคิดว่าตามอารมณ์ ไม่เหมาะสมเป็นหัวหน้าพาเสียการ
*หัวหน้าดีนั้นมีให้เห็นเป็นตัวอย่าง ช่วยเขาทำทุกทางจนรอบด้าน
ไม่เอาเปรียบใช้คนอื่นตัวชื่นบาน แล้วเสนอผลงานเพื่อตนเอง
เมื่อปัญหาเกี่ยวไปถึงภายนอก ตัวหัวหน้าต้องออกถึงจะเก่ง
เขารับผิดชอบช่วยด้วยตนเอง ลูกน้องเกรงว่าเรานั้นเอาการ
แม้หัวหน้าคนใดได้เช่นกัน คงจะมีคนรักสมัครสมาน
มีคนขอเป็นลูกน้องเกินต้องการ ใครพบพานก็เป็นบุญเกื้อหนุนเอย
การติดต่อสื่อสาร
พูดมาก ก็มากเรื่อง พูดน้อย ก็พลอยเคือง ไม่พูดกันเลย ยิ่งไปกันใหญ่
ใครมีปากอยากพูดก็พูดไป เรื่องอะไรก็ช่างอย่าฟังขาน
เราอย่าก่อต่อก้านให้ร้าวราน ความรำคาญก็จะหายสบายไป
การพูดที่มีประสิทธิภาพ บันได 13 ขั้น
เตรียมให้พร้อม ซักซ้อมให้ดี ท่าทีให้สง่า (มีมาด มองตา)
หน้าตาให้สุขุม ทักที่ประชุมไม่วกวน เล่นบ้างบางโอกาส
เริ่มต้นให้โน้มน้าว เรื่องให้กระชับ ตาจับท่านผู้ฟัง
เสียงดังแต่พอดี อย่าให้มีคำเอ้ออ้า (จะเสียบุคลิก)
ดูเวลาให้เหมาะสม สรุปจบให้จับใจ
ยิ้มแย้ม แจ่มใสตลอดเวลาที่พูด
ข้อพึงระวังในการสั่งงาน
สั่งงานในขณะโกรธ โทษลูกน้อง สนองอารมณ์ (เพื่อความสนใจ)
ชื่นชมบางคน ปนแปหลายเรื่อง สติเฟื่องลืมคิด ผิดๆ ถูกๆ
ปัญหาการสั่งงาน
สั่งงาน สั่งอะไร สั่งให้แน่ สั่งแล้วแก้ สับสน คนเวียนหัว
สั่งด้วยปาก ยากจะทำ ซ้ำขุ่นมัว สั่งกันมั่ว แยกกันสั่ง พังทุกที
ถ้าพูดไปเขาไม่รู้อย่าขู่เขา ว่าโง่เง่างมเงอะ เซอะหนักหนา
ตัวของเราทำไมไม่โกรธา ว่าพูดจาให้เขาไม่เข้าใจ
อย่าตัดสินใจว่าอะไรผิด อะไรถูก เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรผิดอะไรถูก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
หลักการครองตน
รู้จักแต่งกาย ใช้จ่ายประหยัด
เคร่งครัดวินัย จิตใจเอื้อเฟื้อ
จุนเจือเกื้อหนุน คุณภาพสูงส่ง
ซื่อตรงตั้งมั่น ขยันอดทน
หลักการครองคน
ดูคนออก บอกคนได้
ใช้คนเป็น เห็นใจคนอื่น
หยิบยื่นความรัก ชักนำทำดี
มีมนุษยสัมพันธ์ จำนรรจาจริงใจ
หลักการครองงาน
แบบอย่างที่ดี มีการเสียสละ
มานะเพียรงาน บริหารยุติธรรม
ผู้นำความรู้ สู่ความสำเร็จ
หลุมพรางของผู้บริหาร
นั่งติดบัลลังค์ ชอบฟังข่าวลือ
จุกจิกจู้จี้ หลีกหนีลูกน้อง
คล่องตัวเกินไป สนใจรับแต่ของ
เข้าระบบเข่าอ่อน หย่อนในเรื่องรางวัล
ฝันเฟื่องเรื่องสมัย ปล่อยปละละเลย
เปรยแต่ไม่ทำ ผู้นำตลอดกาล
อภิบาลพวกพ้อง นักปกครองจอมกะล่อน
อ่อนแอเกียจคร้าน หย่อนด้านศีลธรรม
เรื่องจำไม่ชำนาญ ใช้คนเหมือนเครื่องจักร
ชักแม่น้ำทั้งห้า ไม่รู้ตำแหน่งตน
ขาดแรงบันดาลใจ ไม่ใช้วิชาการ
ลักษณะที่พึงปารถนาในสังคมไทย
หน้ายิ้ม มือไหว้
ใจพัฒนา แสวงหาความคิดใหม่
สนใจทำแต่จริง ไม่วิ่งหาแต่อามิส
ฟังความคิดเห็นผู้อื่น เริงรื่นกับงานที่ทำ
เป็นผู้นำในองค์การ อาจหาญต่ออุปสรรค
ไม่ถูกชักชวนด้วยสอพลอ นี่แหละหนอผู้นำไทย
ใช้มนุษยสัมพันธ์ควบคู่ Common sense สุภาษิตไทย
ให้ท่านท่านจักให้ ตอบสนอง
นบท่านท่านจักปอง มอบไหว้
รักท่านท่านควรครอง ความรักเรานา
สามสิ่งนี้เว้นไว้ แด่ผู้ทรชน
การวางแผนดี
ทำงาน มีแผนงาน วางโครงการ ให้แน่นอน
ปรึกษา หารือก่อน จึงตกลง ปลงใจทำ
ถึงขั้น ดำเนินการ ประสบการณ์ดูคมขำ
น้ำใจ และน้ำคำ ช่วยภาระกิจสัมฤทธิ์ผล”
ลักษณะผู้นำยุคโลกาภิวัตน์
กล้าตัดสินใจ ไว้ต่อข้อมูล
เพิ่มพูนวิสัยทัศน์ ซื่อสัตย์และสร้างสรรค์ผลงาน
ประสานสิบทิศ คิดสร้างสรรค์วิธีทำงานใหม่
จูงใจเพื่อนร่วมงาน ทนทานต่อปัญหาอุปสรรค
รู้จักยืดหยุ่นตามสถานการณ์ บริหารแบบมีส่วนร่วม
มีเรือดี พายดี ไม่ขี่ข้าม
ไปเอาเรือ รั่วน้ำ มาข้ามขี่
ไม่ใช้คน รู้งาน ทำการดี
ไปเอาคน ฝีฝี มาทำงาน
มนุษย์สัมพันธ์มนุษย์สัมพันธ์ สร้างได้ ใช่ยากนัก
ถ้ารู้จัก การให้ มักได้ผล
ให้อภัย ให้ความรัก ให้เกียรติคน
อย่ายกตน ข่มใคร มักไม่ดี
ไม่กล่าวโทษ ผู้ใด ให้หมองศรี
รู้คุณคน แทนคุณท่าน ในทันที
อย่าย่ำยี เหยียดหยาม ประนามคน
เริ่มด้วยเรา จริงใจ ให้เขาก่อน
ผลสะท้อน ก็จะมี ทวีผล
ยิ่งตัวเรา เอาใจเขา ใส่ใจตน
จะเกิดผล มากมิตร สนิทนาน
คุณสมบัติ 9 ประการของผู้นำ ผู้นำคือ ผู้นำ ผู้นำหน้า นำปัญญา นำหน้าเดิน ไม่เมินหนี
ผู้นำต้อง นำทุกอย่างในทางดี ตามวิถีทางธรรมพระสัมมา
ส่วนผู้นำที่ดี มีประสิทธิภาพ ต้องซึมทราบรอบรู้ดูเก่งกล้า
คือรู้ทั้ง เก้ารู้ อยู่ทุกครา จึงจะพา ผู้นำให้ ก้าวไปพลัน
หนึ่ง รู้เขา เป็นอย่างไร รู้ในเขา สอง รู้เรา เป็นอย่างไร เก่งไหมนั่น
สาม รู้เท่า ไม่ด้อยกว่า ร่วมฝ่าฟัน สี่ รู้ทัน ไม่พลาดพลั้งทุกครั้งครา
ห้า รู้กันเอาไว้ ไม่ย่ำแย่ หก รู้แก้อุปสรรคแม้หนักหนา
เจ็ด รู้แพ้เป็นบ้างทางนักกีฬา แปด รู้ชนะ ชนะอย่า ว่าเยาะเย้ย
เก้า ต้องรู้อภัย ให้กันบ้าง เปิดหนทางอยู่ร่วมกันสุขสันต์เผย
เป็นที่พึ่งผู้ตามได้ไม่ละเลย พาชื่นเชยรักใคร่อุ่นไมตรี
และผู้นำคนที่ดีเก่งกาจ ต้องสามารถสร้างผู้นำล้ำราศี
ใช่สร้างแต่ ผู้ตาม ตามตนมี ผู้นำดีต้องเป็นอย่างเอ่ยอ้างเอย.
ผู้นำผู้ตาม
ผู้นำดี
ผู้ตามดี นั้นดีแน่
ผู้นำดี ผู้ตามแย่ พอแก้ไข
ผู้นำแย่ ผู้ตามดี มีทางไป
ผู้นำแย่ ผู้ตามไม่เอาไหน บรรลัยเอย
ผู้นำดี ผู้ตามแย่ พอแก้ไข
ผู้นำแย่ ผู้ตามดี มีทางไป
ผู้นำแย่ ผู้ตามไม่เอาไหน บรรลัยเอย
องค์กรต้องมีผู้นำ
"โขลงช้างมีพญาช้างสาร ครอบครองบริวารทั้งหลาย
ฝูงโคขุนโคก็เป็นนาย มุ่งหมายพาพวกไปหากิน
ฝูงหงส์มีเหมราชา สกุณามีขุนปักษิณ
เทวายังมีสักรินทร์ เป็นปิ่นเทวัญชั้นฟ้า
เหล่าคนจักตั้งเป็นคณะ ต่างคิดเกะกะตามประสา
จะตั้งใจได้ดีกี่เพลา ดูน่าย่อยยับอับจน
จำเป็นต้องมีหัวหน้า กะเกณฑ์บัญชาให้เป็นผล
กองทัพบริบูรณ์ผู้คน ไม่มีจุมพลจะสู้ใคร"
KM มาจาก Kla – Mai อ่านว่า
กล้าไหม
วิชชา ครุปิติ
วิชชา ครุปิติ
กลอน
KM
คุณกล้าไหม ที่จะฟัง อย่างตั้งใจ
คุณกล้าไหม ที่จะฟัง อย่างตั้งใจ
โดยไม่คิด อะไร เอาไว้ก่อน
คุณกล้าไหม ฟังให้ครบ
จนจบตอน
โดยไม่ย้อน สวนไป
ฟังให้ดี
คุณกล้าไหม
ฟังสนุก ได้ทุกคน
โดยไม่สน เสียอำนาจ ขาดศักดิ์ศรี
คุณกล้าไหม ยอมรับเขา ว่าเข้าที
โดยไม่มี
อคติ ตำหนิกัน
คุณกล้าไหม ไม่ยึดติด ความคิดเห็น
คุณกล้าไหม ไม่ยึดติด ความคิดเห็น
เรื่องจะเป็น อย่างไร
ไม่ยึดมั่น
คุณกล้าไหม คนอื่นดี
มีสำคัญ
ตัวคุณนั้น ไม่คิดมาก
หากเรื่องไป
คุณกล้าไหม ถอดหัวโขน
โยนตำแหน่ง
โดยไม่แกว่ง ฟังอย่างลึก
ฝึกนิสัย
คุณกล้าไหม ใช้
KM อย่างเต็มใจ
คุณกล้าไหม
ใครกล้าหมุน ก็คุณเอง
ผูกมิตรสัมพันธ์
“ผูกสนิทชิดเชื้อ นี่เหลือยาก
ถึงเหล็กฟากผูกไว้
ก็ไม่มั่น
จะผูกด้วยมนต์เสก
ลงเลขยันต์
ก็ไม่มั่นเหมือนผูกไว้ ด้วยไมตรี”
( ท่านสนทรภู่ )
“จะพูดจาปราศรัย
กับใครนั้น
อย่าตะคั้นตะคอก
ให้เคืองหู
ไม่ควรพูดก็อย่าพูด
ถึงมึงกู
คนจะหลู่ล่วงลาม
ไม่ขามใจ” ( ท่านสนทรภู่ )
“แม้จะเรียนวิชา
ทางค้าขาย
อย่าปากร้ายพูดจา
อัชฌาสัย
จะซื้อง่ายขายดี
มีกำไร
ด้วยเขาไม่เคืองจิต
ระอิดระอา” ( ท่านสนทรภู่ )
“ชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสารโบราณว่า น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัชฌาสัย
เราก็จิตคิดดูเล่าเขาก็ใจ
ปลูกอื่นใยปลูกไมตรีดีกว่าพาล” (
หม่อมเจ้าอิศรญาณ )
"อำลา..อาลัย"...ส่ง ผอ.สาธร | ||
๏ ด้วยรักและศรัทธามีมาให้ |
|
วันแห่งความยิ่งใหญ่จึงปรากฏ |
ชมพูเขียวมีชื่อลือลาภยศ
|
|
ผู้กำหนดสร้างชื่อเลื่องลือนาม
|
๏ ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีที่เป็นหนึ่ง |
|
คำเคยซึ้งตรึงใจให้เกรงขาม |
จุ่งจำเริญก้าวไกลไปทุกยาม
|
|
ยังติดตามศรัทธา
"ท่านสาธร"
|
|
|
|
"มาใหม่..ยินดี"...รับ ผอ.นิกร | ||
๏
เป็นก้าวใหม่ก้าวเสริมมาเติมต่อ
|
|
ให้
"ส.ธ." จรัสไกลในโลกหล้า
|
เสริมด้วยรักด้วยมนัสพัฒนา
|
|
แลมุ่งมั่นก้าวหน้ากันต่อไป
|
๏
ด้วยรักและศรัทธามีมามอบ
|
|
หวังประกอบการศึกษาพายิ่งใหญ่
|
เสริมกิจด้วยความหวังกำลังใจ
|
|
คือพลังมอบให้
"ท่านนิกร"
|
กันยายน
2547
|
|
โฮมเพจ
"ฝ่ายวิชาการ ส.ธ."
|
เขียนให้
คุณครูสุรชาติ
รัตตานุกูลเนื่องในโอกาสที่ได้รับคำสั่งย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน
"พ่วงพรหมครวิทยา"
เมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๔๘
๏ สุรชาติ ชาติชื่อคือชาติกล้า |
สู้ฟันฝ่าบากบั่นมั่นคงยิ่ง | |
หนึ่งในสี่ท่านรองคือของจริง | ถ้วนทุกสิ่งสมหมายสบายมือ | |
๏ ไปเป็นผู้บริหารสถานศึกษา |
ให้ก้าวหน้ามากล้นคนนับถือ | |
ผู้นำดีมีชัยให้ระบือ | สมดั่งชื่อ "สุรชาติ" องอาจครัน |
เขียนให้
ผ.อ.นิกร ธีระจามร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดเมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๔๘
ในนามกลุ่มบริหารงานวิชาการ
๏ หวังสิ่งใด ให้ได้ ดั่งใจหวัง |
สุขประดัง สมมาด ปรารถนา | |
มีพลัง หวังจรัส พัฒนา | การศึกษา ก้าวไกล ด้วยใจภักดิ์ | |
๏ ให้ก้าวหน้า มากล้น ชนนับถือ |
ให้เลื่องลือ ยศฐา บรรดาศักดิ์ | |
ให้ยลเยี่ยม เปี่ยมล้น ด้วยคนรัก | เป็นแหล่งหลัก พักใจ ใน "สอธอ" |
เขียนลงโฮมเพจฝ่ายวิชาการโรงเรียนสุราษฎร์ธานี
ในโอกาสที่ผู้อำนวยการนิกร ธีระจามร
ได้รับคำสั่งย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย
และผู้อำนวยการประภาศรี อุยยามฐิติ
ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนสุราษฎร์ธานี เมื่อ 14 มิถุนายน 2550
แด่ ผ.อ.นิกร
ธีระจามร
| ||
๏ กว่าสองปี ที่ร่วมงาน สานหน้าที่ |
ข้อแนะนำ มากมี ท่านพร่ำสอน | |
ยึดเป็นแนว มั่นใจ ไม่คลายคลอน | คือตัวอย่าง ทับซ้อน แต่สิ่งงาม | |
๏รางวัลพระ ราชทาน ผลงานคิด |
เร่งผลิต งานไอที มีล้นหลาม | |
ขอองค์ท้าว เทวะ จตุคาม | ประกาศนาม "นิกร" กระฉ่อนไทย |
ยินดีต้อนรับ ผู้อำนวยการประภาศรี
อุยยามฐิติ
| ||
๏จากครูเก่า เกิดก่อ ผู้บริหาร |
ไปเบิกบาน โรจน์ฟ้า ชื่อปรากฎ | |
ว่าหญิงแกร่ง ทุกสนาม พาคร้ามยศ | เก่งกำหนด ก้าวหน้า สถาบัน | |
๏มาสร้างเรือน เยือนถิ่น แผ่นดินเก่า |
เคยสอนเยาว์ แนะทาง ด้วยสร้างสรรค์ | |
มาวันนี้ มีภาระ ใหญ่ฉกรรจ์ | "ประภาศรี" เร่งผลักดัน พัฒนา |
เขียนให้ อ.ผ่องพรรณ นวลขาว
โอกาสเกษียณอายุราชการ 2551
| ||
๏ ผ่อง เพ็ญสว่างพื้น |
อัมพร | |
พรรณ เพื่อนมิอาจรอน | รักได้ | |
นวล เนื้อแนบในกลอน | ลิขิตขีด เขียนนา | |
ขาว ขับพิสุทธิ์ให้ | สว่างพื้นโพยมพราย | |
๏ ห่างหายพาห่วงให้ | เห็นหน | |
คราห่างขอใจดล | ดับไห้ | |
ฝากรักจากใจชน | กระชับเชื่อม มานา | |
สบสุขสรรค์เสกได้ | ดั่งเพี้ยงร่ายมนตร์ |
การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (ปรับแก้ไขให้สละสลวยเองนะครับ)
จะขอกล่าวถึงบุคคลในองค์การ
ล้วนประสานสัมพันธ์กันมั่นเหมาะ
ว่าองค์กรนั้นสร้างจากกฎเฉพาะ และจำเพาะทรัพยากรที่หวังผล
รวมธรรมชาติขององค์การที่แบ่งปัน จากจัดสรรการกระทำของบุคคล
ว่าพฤติกรรมที่แสดงขององค์กร สะท้อนจิตวิทยา,เชื้อชาติศาสนา
อีกทั้งวัฒนธรรมและการเมือง และก่อเกื้อเอื้อจากสังคมสร้าง
ถือบุคคลเป็นทรัพย์สินที่ศูนย์กลาง อันเป็นแก่นองค์กรที่ประเสริฐ
แต่หลากหลายองค์กรล้วนมองข้าม มีหยาบหยามเย้ยหยันไม่บรรเจิด
มองเครื่องจักรเครื่องกลว่าเป็นเลิศ โดยไม่เทอดผู้สร้างที่เป็นคน
ความสำคัญของบุคคลในองค์กร นับวันล้นยิ่งใหญ่และสำคัญ
ว่ามนุษย์วางแผน,ออกแบบกัน นำไปใช้ผดุงไม่โอ้อวด
กับองค์กรอินทรียะที่เหมาะสม ในหน้าที่ที่สำคัญอย่างยิ่งยวด
หน้าที่จัดการคนค้นอย่างเร็วรวด เพื่อประกวดประชันแข่งขันกัน
เรื่องราวองค์กรหลายสิบปี สามารถมีสรุปได้ประเด็นหลาย
มีเคลื่อนย้ายอำนาจจากสถาบัน มาเติมเต็มในโครงสร้างขององค์กร
โดยหลักใช้จัดการสัมพันธ์ยิ่ง จากกรอบอิงแบบเ่ก่าที่คุมพล
เหมือนควบคุมอยู่หมัดสกัดคน ให้สืบผลเดินตามไม่ถามกัน
โดยฟูโก้ได้กล่าวในหนังสือ โดยยึดถือแนวทางควบคุมรัฐ
เราสามารถเปลี่ยนจากกฎบังคับ โดยกำกับ,จูงใจ,และกำหนด
ตัวบุคคลชี้วัดอย่างจริงจัง ไม่เลี้ยวลดเฉไฉในบริบท
เพื่อองค์กรก่อขึ้นไว้เป็นกฎ ในแนวทางสร้างสรรค์เพื่อมวลชน
ว่าองค์กรนั้นสร้างจากกฎเฉพาะ และจำเพาะทรัพยากรที่หวังผล
รวมธรรมชาติขององค์การที่แบ่งปัน จากจัดสรรการกระทำของบุคคล
ว่าพฤติกรรมที่แสดงขององค์กร สะท้อนจิตวิทยา,เชื้อชาติศาสนา
อีกทั้งวัฒนธรรมและการเมือง และก่อเกื้อเอื้อจากสังคมสร้าง
ถือบุคคลเป็นทรัพย์สินที่ศูนย์กลาง อันเป็นแก่นองค์กรที่ประเสริฐ
แต่หลากหลายองค์กรล้วนมองข้าม มีหยาบหยามเย้ยหยันไม่บรรเจิด
มองเครื่องจักรเครื่องกลว่าเป็นเลิศ โดยไม่เทอดผู้สร้างที่เป็นคน
ความสำคัญของบุคคลในองค์กร นับวันล้นยิ่งใหญ่และสำคัญ
ว่ามนุษย์วางแผน,ออกแบบกัน นำไปใช้ผดุงไม่โอ้อวด
กับองค์กรอินทรียะที่เหมาะสม ในหน้าที่ที่สำคัญอย่างยิ่งยวด
หน้าที่จัดการคนค้นอย่างเร็วรวด เพื่อประกวดประชันแข่งขันกัน
เรื่องราวองค์กรหลายสิบปี สามารถมีสรุปได้ประเด็นหลาย
มีเคลื่อนย้ายอำนาจจากสถาบัน มาเติมเต็มในโครงสร้างขององค์กร
โดยหลักใช้จัดการสัมพันธ์ยิ่ง จากกรอบอิงแบบเ่ก่าที่คุมพล
เหมือนควบคุมอยู่หมัดสกัดคน ให้สืบผลเดินตามไม่ถามกัน
โดยฟูโก้ได้กล่าวในหนังสือ โดยยึดถือแนวทางควบคุมรัฐ
เราสามารถเปลี่ยนจากกฎบังคับ โดยกำกับ,จูงใจ,และกำหนด
ตัวบุคคลชี้วัดอย่างจริงจัง ไม่เลี้ยวลดเฉไฉในบริบท
เพื่อองค์กรก่อขึ้นไว้เป็นกฎ ในแนวทางสร้างสรรค์เพื่อมวลชน
คุณสมบัติผู้ตามที่ไม่พึงประสงค์
กวี ซีม่า
หนึ่ง นินทา เจ้านาย ไม่ว่างเว้น คอยหลีกเร้น หลบหน้า ด่าลับหลัง
ชอบยกยอ ตัวเอง กล้าเก่งจัง ที่นายชัง เพราะว่า อิจฉาตน
สอง งานหนัก ไม่เอา เบาไม่สู้ ชอบแต่อู้ หลบหนี ทั้งขี้บ่น
เหยียบบ่าเพื่อน เพียงเพื่อ อยู่เหนือคน แล้วรับผล ดีใส่ตัว ชั่วให้มิตร
สาม ขยัน หมั่นลา สารพัด เดี๋ยวเป็นหวัด เดี๋ยวปวดเมนส์ เดี๋ยวเป็นบิด
เขียนใบลา มาให้เซ็น อยู่เป็นนิตย์ แถมลากิจ ติดธุระ เป็นประจำ
สี่ ซื่อบื้อ ถือดี แถมงี่เง่า ชอบดื่มเหล้า เมามา ตาแดงก่ำ
เห็นเจ้านาย พาลชี้หน้า ด่าริยำ คำทุกคำ หยาบช้า สารเลว
ห้า ถนัด ร้องเรียน เพียรเหลือหลาย บัตรสนเท่ห์ ถล่มนาย ให้ตกเหว
ไล่,ประท้วง ตะโกนก้อง ร้อง เย้ว เย้ว งานล้มเหลว ก็เพราะนาย…มิใช่กู
หก ปั้นหน้า เศร้าเศร้า เล่าความเท็จ ใช้ทีเด็ด มารยา น่าอดสู
แท้จริงแล้ว หลอกผู้ชม ต้มคนดู เหลี่ยมแต้มคู กินขาด ร้ายกาจจริง
คือ ผู้ตาม ไม่พึงประสงค์ หากคงไว้ ย่อมทำให้ หน่วยงาน นั้นจมดิ่ง
เนื้อไหนร้าย ต้องตัด กำจัดทิ้ง ขืนปล่อยนิ่ง เอาไว้ บรรลัยเอย
กวี ซีม่า
หนึ่ง นินทา เจ้านาย ไม่ว่างเว้น คอยหลีกเร้น หลบหน้า ด่าลับหลัง
ชอบยกยอ ตัวเอง กล้าเก่งจัง ที่นายชัง เพราะว่า อิจฉาตน
สอง งานหนัก ไม่เอา เบาไม่สู้ ชอบแต่อู้ หลบหนี ทั้งขี้บ่น
เหยียบบ่าเพื่อน เพียงเพื่อ อยู่เหนือคน แล้วรับผล ดีใส่ตัว ชั่วให้มิตร
สาม ขยัน หมั่นลา สารพัด เดี๋ยวเป็นหวัด เดี๋ยวปวดเมนส์ เดี๋ยวเป็นบิด
เขียนใบลา มาให้เซ็น อยู่เป็นนิตย์ แถมลากิจ ติดธุระ เป็นประจำ
สี่ ซื่อบื้อ ถือดี แถมงี่เง่า ชอบดื่มเหล้า เมามา ตาแดงก่ำ
เห็นเจ้านาย พาลชี้หน้า ด่าริยำ คำทุกคำ หยาบช้า สารเลว
ห้า ถนัด ร้องเรียน เพียรเหลือหลาย บัตรสนเท่ห์ ถล่มนาย ให้ตกเหว
ไล่,ประท้วง ตะโกนก้อง ร้อง เย้ว เย้ว งานล้มเหลว ก็เพราะนาย…มิใช่กู
หก ปั้นหน้า เศร้าเศร้า เล่าความเท็จ ใช้ทีเด็ด มารยา น่าอดสู
แท้จริงแล้ว หลอกผู้ชม ต้มคนดู เหลี่ยมแต้มคู กินขาด ร้ายกาจจริง
คือ ผู้ตาม ไม่พึงประสงค์ หากคงไว้ ย่อมทำให้ หน่วยงาน นั้นจมดิ่ง
เนื้อไหนร้าย ต้องตัด กำจัดทิ้ง ขืนปล่อยนิ่ง เอาไว้ บรรลัยเอย
อำลาปลดเกษียณอายุราชการ
จำลอง รัชวัตร์
คารวะ สวัสดี เพื่อนพี่น้อง ผม "จำลอง" อำลา พ้นหน้าที่
อายุครบ กำหนด หกสิบปี ถึงวิถี เกษียณ เปลี่ยนเส้นทาง
จากวันที่ พบกัน ถึงวันนี้ ความผิดชอบ ชั่วดี ย่อมมีบ้าง
ขอบคุณที่ อุ้มชู ปูเส้นทาง ขออภัย หากสร้าง สิ่งร้าวใจ
จะจดจำ สิ่งดี ตราบชีวิต จารึกมิตร ไมตรี ที่มอบให้
จะซึมซับ ตราตรึง ซึ้งทรวงใน ประทับรอย อาลัย ในดวงมาน
ขออำนาจ เทวา คณาฤทธิ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั่วหล้า มาประสาน
คอยปกป้อง คุ้มครอง บริบาล ให้ท่านสุข สำราญ นิรันดร์เทอญ
จำลอง รัชวัตร์
คารวะ สวัสดี เพื่อนพี่น้อง ผม "จำลอง" อำลา พ้นหน้าที่
อายุครบ กำหนด หกสิบปี ถึงวิถี เกษียณ เปลี่ยนเส้นทาง
จากวันที่ พบกัน ถึงวันนี้ ความผิดชอบ ชั่วดี ย่อมมีบ้าง
ขอบคุณที่ อุ้มชู ปูเส้นทาง ขออภัย หากสร้าง สิ่งร้าวใจ
จะจดจำ สิ่งดี ตราบชีวิต จารึกมิตร ไมตรี ที่มอบให้
จะซึมซับ ตราตรึง ซึ้งทรวงใน ประทับรอย อาลัย ในดวงมาน
ขออำนาจ เทวา คณาฤทธิ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั่วหล้า มาประสาน
คอยปกป้อง คุ้มครอง บริบาล ให้ท่านสุข สำราญ นิรันดร์เทอญ
ตั้งใจเรียนรู้งาน
เพียงตั้งใจ ไขว่คว้า พยายาม จะได้ตาม สิ่งของ ต้องประสงค์
เพียงตั้งใจ ไขว่คว้า พยายาม จะได้ตาม สิ่งของ ต้องประสงค์
หากยังไม่
ได้ตาม ความจำนงค์ คงต้องปรับแก้ พัฒนาต่อเนื่องไป
ได้บทเรียน
ความรู้ ประสบการณ์ ผสมผสาน สะสม เป็นความรู้ใหม่
จะเจริญ
ก้าวหน้า อย่างตั้งใจ เพียงใส่ใจ จริงจัง
ทุกครั้งเอย
ให้เกียรติ
รู้ให้เกียรติ ไม่เหยียดหยาม ด้วยความรัก สังคมจัก ปรากฏ ความสดใส
คนสร้างเกณฑ์ ความเป็นมิตร จากจิตใจ โลกย่อมไร้ เหตุร้าย ทำลายกัน
ให้เกียรติ
รู้ให้เกียรติ ไม่เหยียดหยาม ด้วยความรัก สังคมจัก ปรากฏ ความสดใส
คนสร้างเกณฑ์ ความเป็นมิตร จากจิตใจ โลกย่อมไร้ เหตุร้าย ทำลายกัน
คิดตามซื่อ ถือความสัตย์
อัชฌาสัย พูดสิ่งใด ใฝ่โอบอ้อม ย่อมสุขสันต์
พูดเพื่อหนุน คุณธรรม สร้างสัมพันธ์ พูดคงมั่น ทุกอรรถ เป็นสัจจา
พูดเพื่อหนุน คุณธรรม สร้างสัมพันธ์ พูดคงมั่น ทุกอรรถ เป็นสัจจา
รู้ชื่นชม นิยมตาม
ความสามารถ ให้โอกาส ด้วยไมตรี ทุกทีท่า
จากน้ำใสใจจริงสิ่งงามตา มอบคุณค่า แห่งเกียรตินั้น ทุกชั้นชน
จากน้ำใสใจจริงสิ่งงามตา มอบคุณค่า แห่งเกียรตินั้น ทุกชั้นชน
ไม่เลือกรัก เลือกชัง
ทั่วทั้งผอง เหมือนพี่น้อง ร่วมสุข
ในทุกหน
จากชิดใกล้ ไกลตา สู่สากล ทุกผู้คน มีชีวิต มีจิตใจ
จากชิดใกล้ ไกลตา สู่สากล ทุกผู้คน มีชีวิต มีจิตใจ
การยอมรับ นับถือ
คือมอบเกียรติ มิเบียนเบียด แม้ว่า
มาจากไหน
ความหวังดี มีต่อกัน นิรันดร์ไป ชีพสดใส ในรอยยิ้ม รักพิมพ์รอย
ความหวังดี มีต่อกัน นิรันดร์ไป ชีพสดใส ในรอยยิ้ม รักพิมพ์รอย
บินสู่ฝัน
ไม่ต้องบิน ให้สูง อย่างใครเขา จงบินเอา เท่าที่เรา จะบินไหว
ท่าที่บิน ไม่จำเป็น ต้องเหมือนใคร แค่บินไป ให้ถึงฝัน เท่านั้นพอ
อำลา อาลัยผู้เกษียณราชการ
เกษียณกาลผ่านพ้น อาลัย
หกสิบปีเวียนไว เนิ่นช้า
ตรากตรำทุ่มเทให้ หน้าที่ กอปรกิจ
ยกย่องถึงฝั่งหล้า เปี่ยมล้ำ สุขเกษม
บทบาทบุคคล
พิษณุ ตุลสุข
เร่งร้อน เร่าโลด
โดดเต้น ละเล่น ท่าทาง อย่างสั่ง
บทยักษ์ เต้นยักษ์ ตึงตัง บทลิง จริงจัง ดั่งลิง
สวมหัว ลงไป เล่นได้หมด กำหนด บทบอก กลอกกลิ้ง
ผิดแผก แตกต่าง ตัวจริง ชายหญิง หนุ่มชรา เช่นกัน
เปลี่ยนหัว เปลี่ยนหน้า ท่าเปลี่ยน หันเหียน เวียนวก ผกผัน
มือเท้า วาดท่า ต้องทัน มิฉะนั้น เสียหน้า เสียการณ์
บทยักษ์ เต้นยักษ์ ตึงตัง บทลิง จริงจัง ดั่งลิง
สวมหัว ลงไป เล่นได้หมด กำหนด บทบอก กลอกกลิ้ง
ผิดแผก แตกต่าง ตัวจริง ชายหญิง หนุ่มชรา เช่นกัน
เปลี่ยนหัว เปลี่ยนหน้า ท่าเปลี่ยน หันเหียน เวียนวก ผกผัน
มือเท้า วาดท่า ต้องทัน มิฉะนั้น เสียหน้า เสียการณ์
ถึงคราว ต้องเปลี่ยน
หัวหน้า ตั้งท่า เตรียมตัว รับขาน
เงอะเงิ่น โง่งม งัวงาน ฉะฉาน ขานครับ รับคำ
หัวโขน บทเลว ตัวร้าย มือเท้า ร่างกาย กลืนกล้ำ
ได้หัว หน้าดี ชี้นำ เป็นบุญ เลิศล้ำ แก่กาย
เงอะเงิ่น โง่งม งัวงาน ฉะฉาน ขานครับ รับคำ
หัวโขน บทเลว ตัวร้าย มือเท้า ร่างกาย กลืนกล้ำ
ได้หัว หน้าดี ชี้นำ เป็นบุญ เลิศล้ำ แก่กาย
ต้อนรับ
ด้วยดวงใจไมตรียินดีรับ
ขอประทับท่านไว้ในดวงมาน
แม้โลกหมุนเลยเปลี่ยนวันเวียนผ่าน อีกกี่กาลมิตรนี้มิมีเลือน
เมื่อมิตรมามีมวลหมู่มิตรมาก มีแต่รักเป็นของฝากให้ผองเพื่อน
แทนน้ำคำขอบคุณที่เยี่ยมเยือน แม้วันเลื่อนเดือนลาอย่าลืมกัน…
แม้โลกหมุนเลยเปลี่ยนวันเวียนผ่าน อีกกี่กาลมิตรนี้มิมีเลือน
เมื่อมิตรมามีมวลหมู่มิตรมาก มีแต่รักเป็นของฝากให้ผองเพื่อน
แทนน้ำคำขอบคุณที่เยี่ยมเยือน แม้วันเลื่อนเดือนลาอย่าลืมกัน…
วิเคราะห์บทกลอนต่อไปนี้ตามหลักการบริหารจัดการยุคใหม่
ไพโรจน์ ปิ่นแก้ว
ไพโรจน์ ปิ่นแก้ว
1. ไอ้มีไปตัดไม้
ไอ้ใจไปขุดหลุม
ไอ้จันไอ้ชุ่ม
คุมกันไปเกี่ยวแฝก
จากนั้นเกลาเสา
เอ้าโว้ยย้ายแยก
เสร็จแล้วข้าฯจะแจก ของแปลกๆมาให้กิน
(รัชกาลที่2)
จากบทกลอนเข้ากับหลักการบริหารจัดการตามหลักบริหารจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ของนักคิดหลายๆท่านผสมผสานกัน
เช่น ตามหลักของ
เทเลอร์ (Taylor) - เลือกคนให้เหมาะสมกับงาน – ทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด - ร่วมมือกันทำงาน - มีการแบ่งงานตามความเหมาะสม
- การวางแผนเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร - งานด้านปฏิบัติเป็นหน้าที่ของคนงาน
เทเลอร์ (Taylor) - เลือกคนให้เหมาะสมกับงาน – ทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด - ร่วมมือกันทำงาน - มีการแบ่งงานตามความเหมาะสม
- การวางแผนเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร - งานด้านปฏิบัติเป็นหน้าที่ของคนงาน
ตามหลักของ ฟาโยล (Fayol) - แบ่งงานกันทำ -
มีเอกภาพในการบังคับบัญชา - รวมอำนาจไว้ส่วนกลาง - มีความสามัคคี -
ให้ผลประโยชน์ตอบแทน
แนวคิดของ weber - มีการจัดสายบังคับบัญชาไว้ชัดเจน -
มีการแบ่งงานกันทำ - เลือกคนให้เหมาะสมกับงาน
บริหารตามทฤษฎีการเสริมแรงของสกินเนอร์ (skinner)
จากกลอนที่ว่า เสร็จแล้วข้าฯจะแจก ของแปลกๆมาให้กิน
2. อำนาจต้องเป็นญาติ
กับอำนวย
จึงจะช่วยตนจน คนส่วนใหญ่
หากอำนาจไม่ช่วย
อำนวยชัย
อำนาจจะเป็นภัย
อำนาจเอง (สุจินต์ วงศ์เทศ)
การบริหารจัดการยุคใหม่ตามบทกลอนบทนี้ต้องบริหารจัดการตามหลักธรรมมาภิบาล
ธรรมมาภิบาล หมายถึง การปกครองดูแลหรือบริหารจัดการโดยอาศัยหลักคุณงามความดีต่างๆ หรือหลักนิติธรรม หลักคุณธรรม
หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักคุ้มค่า การบริหารตามบทกลอนนี้ต้องใช้อำนาจตามหลักนิติธรรม หลักนิติธรรมหมายถึงก ารปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ ไม่ใช้อำนาจการบริหารตามอำเภอใจหรืออำนาจของตัวบุคคล จึงจะเกิดประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ ถ้าบริหารตามอำเภอใจจะทำให้คนได้รับความเดือดร้อนจากอำนาจการบริหารงานนั้น
ธรรมมาภิบาล หมายถึง การปกครองดูแลหรือบริหารจัดการโดยอาศัยหลักคุณงามความดีต่างๆ หรือหลักนิติธรรม หลักคุณธรรม
หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักคุ้มค่า การบริหารตามบทกลอนนี้ต้องใช้อำนาจตามหลักนิติธรรม หลักนิติธรรมหมายถึงก ารปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ ไม่ใช้อำนาจการบริหารตามอำเภอใจหรืออำนาจของตัวบุคคล จึงจะเกิดประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ ถ้าบริหารตามอำเภอใจจะทำให้คนได้รับความเดือดร้อนจากอำนาจการบริหารงานนั้น
3.
บ้านเมืองเศร้า มีผู้เฒ่าหลายคน บ้านเมืองจน มีตั้งแต่คนเว้า
(ธีรศักดิ์ บึงมุม)
จากคำกลอนนี้ต้องใช้หลักการบริหารงานยุคใหม่ คือ
โดยกำหนดเป็นแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เพราะต้องมีการวางแผนเป็นระบบบริหารงานด้านต่างๆ
- ประชากร มีการวางแผนให้ช่วงอายุของประชากรเหมาะสม เช่น วัยเด็ก วัยแรงงาน วัยชรา ต้องสมดุลกัน ถ้าประชากรวัยชรามากบ้านเมืองเราก็จะพัฒนาได้ช้าเพราะเราขาดบุคลากรวัยแรงงาน
- ต้องบริหารงานแบบมีส่วนร่วม หมายถึงการให้โอกาสบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถหรือผุ้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ เกี่ยวกับการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เช่นเป็นคณะกรรมการ อนุกรรมการ คณะทำงาน โดยให้ข้อมูล แนะนำร่วมกันวางแผนปฏิบัติงาน
- ประชากร มีการวางแผนให้ช่วงอายุของประชากรเหมาะสม เช่น วัยเด็ก วัยแรงงาน วัยชรา ต้องสมดุลกัน ถ้าประชากรวัยชรามากบ้านเมืองเราก็จะพัฒนาได้ช้าเพราะเราขาดบุคลากรวัยแรงงาน
- ต้องบริหารงานแบบมีส่วนร่วม หมายถึงการให้โอกาสบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถหรือผุ้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ เกี่ยวกับการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เช่นเป็นคณะกรรมการ อนุกรรมการ คณะทำงาน โดยให้ข้อมูล แนะนำร่วมกันวางแผนปฏิบัติงาน
4. แม้คิดได้ ให้ช่วยคิด หากคิดไม่ได้ ให้ช่วยทำ
แม้ทำไม่ได้ ขอให้ความร่วมมือ
หากแม้กำลังใจก็ให้ไม่ได้ ขอจงสงบนิ่งจากบทกลอนต้องใช้การบริหารงานแบบมีส่วนร่วม หลีกการมีส่วนร่วมหมายถึงการให้โอกาสบุคลากรหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมบริหารจัดการ เกี่ยวกับการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เช่นเป็นคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงานโดยให้ข้อมูล ความคิดเห็น แนะนำ ปรึกษา ร่วมวางแผนร่วมปฏิบัติ ตามหลักความรับผิดชอบ(Responsibility) หมายถึง ตระหนักในหน้าที่ความรับผิดชอบ ช่วยการแก้ปัญหา เคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง
5. คนโง่ หัวใจ อยู่ที่ลิ้น คนฉลาด ลิ้นอยู่ที่ หัวใจ (ธีระศักดิ์ บึงมุม)
หมายความว่า คนบางคนพูดทุกอย่างที่อยากพูดโดยไม่รู้ว่าอะไรพูดแล้วมีโทษหรือประโยชน์ต่อตนหรือส่วนรวม ส่วนคนบางคนเลือกที่จะพูดในสิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อตนและสังคม
ทฤษฎีเสมอภาคของอาดัมส์ (1965) มุ่งหนุนนำในสมมติฐาน
เรื่องรับรู้ความเป็นธรรมทั่วทุกด้าน เมื่อเทียบงานที่เหมือนกันกับคนอื่น
งานเท่ากันเงินเท่ากันในหน้าที่ เท่าเทียมดีทุกตัวงานอย่างชื่นมื่น
หากห่างกันเป็นช่องว่างอย่างกล้ำกลืน เสียงสะอื้นบ่นพร่ำไม่เป็นธรรม
อาดัมส์เสนอแนะบุคคลในองค์การ โดยจัดการวางคุณค่าแตกต่างกัน
ปัจจัยเข้าปัจจัยออกที่เท่ากัน อินพุทนั้นเช่นเวลาและทุ่มเท
ผลของงานเทียบเอ๊าพุทมีส่วนเกิน ต้องมองเงินแลยกย่องไม่ลังเล
หากคนงานไม่พอใจอาจหันเห เพราะรวนเรค่าตอบแทนที่เทียมกัน
ความเสมอภาคเป็นตัวอย่างที่คงทน พิสูจน์คนเชิงประจักษ์อย่างชัดแจ้ง
เป็นประโยชน์ยิ่งยวดอย่างเกินแกง ใช้ชี้แจงความเข้าใจแรงจูงใจ
และสิ่งไม่พึงพอใจในบุคคล ทุกแห่งหนล้วนยอมรับไม่ว่าใคร
โดยเทียบกับสภาพงาน,ตัวงานไซร้ เงินเดือนได้เท่ากับที่ทุ่มเท
ทฤษฎีอาดัมส์นั้นสำคัญยิ่ง สำหรับงานบริหารทรัพย์มนุษย์
ในขอบเขตออกแบบงาน,รางวัลรุด เพื่อจี้จุดกำลังใจไม่มืดมน
ผู้ทำงานในมนุษย์ควรหลีกเลี่ยง การถกเถียง,ไม่พอใจในบุคคล
พูดกฎเกณฑ์จ่ายเงิน,รางวัลคน เพื่อดั้นด้นดันบุคคลสู่ผลงาน
Posted 23rd September 2011 by tawipan999
ครูดีในปัจจุบัน
ครูดี ใครวัด ว่าดี ครูสอน อยู่ที่ ห่างไกล
สพฐ. มองเห็น ร่ำไร วินิจฉัย เพิ่มให้ ซีมา
ข้าวแกง คนกิน รู้รส เคี้ยวซด จึงรู้ รสหนา
คนกิน คนวัด แ่ม่ค้า เข้าท่า ถูกต้อง เข้าที
ครูสอน ศิษย์จัด วัดครู พ่อแม่ ควรรู้ สักขี
ครูสอน ศิษย์ดี ไม่ดี วินิจฉัย ถูกที่ ตรงคน
ครูทำ ผลงาน เต็มโต๊ะ โส๊ะโส๊ะ จัดเตรียม โกลาหล
คิดถึง แต่เรื่อง ของตน ก้าวพ้น อยู่เหนือ ใครใคร
ในใจ คิดแต่ แข่งขัน วันวัน คุณครู อยู่ไหน
ครูทำ มัวทำ อะไร ตั้งใจ สอนหนู ครูขา
ยุคก่อน ไม่มี แบบนี้ ครูดี เด็กดี จริงหนา
ยุคนี้ ครูแย่ ลงนา ศิษย์พา ท้อแท้ แย่ลง
ต่างครู ต่างจิต คิดไป หัวใจ ครูผิด คิดหลง
พ่อแม่ ผองศิษย์ คิดปลง คุณครู ยังหลง ต่อไป
กินข้าว เจ้าไหน ไม่อร่อย รสกร่อย เปลี่ยนร้าน ได้ไหม
ครูสอน เด็กกร่อย อย่างไร เปลี่ยนครู ไม่ได้ ต้องทน
ข้อคิด นิดนิด น่าคิด ลองคิด ไตร่ตรอง เหตุผล
ปรับปรุง การสอน ของตน เพื่อศิษย์ ทุกคน ชื่นใจ
ครูแคว็ด ๓ ธ.ค ๔๑
พรปีใหม่ 2542
ขอสุขดี ศรีสวัสดิ์ พิพัฒน์ผล ถ้วนทุกคน ทุกหมวดฝ่าย ให้สุขขี
ท่านผอ.โสภณ ผลงานดี ท่านรวี เร่งรัด พัฒนา
ท่านอำพล สุชาติ ทัศนีย์ ขอมีโชค อย่าทุกข์โศก เพ็ญศรี สุขหรรษา
ลาภมากมี นิวิต และศักดา จารย์สุภาพ (ต) เงินตรา ทรัพย์อนันต์
จารย์สำรวย อีกด้วย ให้รวยทรัพย์ จารย์มานพ รอรับสิน สมดังฝัน
จารย์ประสิทธิ์ มีสุข ทุกคืนวัน จารย์ชาญชัย เหมือนกัน อย่าโรยรา
จารย์นิตยา ประยุทธ์ ให้ผุดโชค อย่าเศร้าโศก สุขสำราญ จารย์วาสนา
สุขสมบูรณ์ เถิดท่าน จารย์วรรณา ชนิตา ให้สนุก สุขกับงาน
จารย์สุภาพ ณ พิบูลย์ จงพูนผล จารย์เพียงใจ ขอเทพดล สุขแหววหวาน
จารย์จีระพัฒน์ ปิยา จงชื่นบาน จารย์สำราญ ขอพุงน้อย ลดถอยลง
จารย์ปรีชา สาลี่ ขอมีสุข จารย์ธวัช ปราศจากทุกข์ สมประสงค์
สุขภาพ ดีคืนวัน จารย์อนงค์ รวมทั้งครู อนงค์ ศิริครินทร์
จารย์เจริญ ขอให้เจริญ เจริญดี สุพรรณี เสริมศักดิ์ มากทรัยพ์สิน
สองสมพงค์ ขอเก่งกาจ ปราศราคิน อรพินท์ สุขนานนาน จารย์หวานตา
สืบสกุล มัลลิกา อย่าเจ็บไข้ ครูละม้าย มีบุตรดัง หวังปรารถนา
ให้คล่องแคล่ว การงาน จารย์โสภา ครูวันชัย ปรีดา อย่ามีทุกข์ สุขใจกาย
ครูวันชัย(ขาว) ให้ได้เมีย เสียทีเถิด ครูนิโรจน์ บังเกิดสิน สมมุ่งหมาย
วีระวัฒน์ ปราศจาก อันตราย ชุมพล มากมาย ทรัพย์นานา
ให้โชคดี ศิวันเนาว์ สุมาลี ครูมนตรี พิมล สมมุ่งมาด ปรารถนา
ให้ดีเด่น สมความฝัน สุนันทา กุลนาถ สุพัตรา สวยกายใจ
ครูสายฝน ลัดดาวัลย์ จารย์ไพบูลย์ ขอความสุข ได้พอกพูน คุณครูพิสมัย
วลีรัตน์ พัฒนา ให้ก้าวไกล กรประภา สมมุ่งหมาย ดั่งใจจินต์
ครูอำไพ อรณี สุมนา มารศรี ให้มากมี ความสุขสรรค์ ฝันถวิล
ครูเครือวัลย์ กัลยา ไร้ราคิน มากทรัพย์สิน ครูเปรมหมวย รวยเงินทอง
คุณครูไหม รวมครูไฝ ครูวิจิตร แม้ว่าคิด ปรารถนาใด ได้สนอง
ครูสุวรรณ ขอเกียรติ์เฟื่อง ทรัพย์เนืองนอง ให้เทพจอง ได้คุ้มกัน จารย์วรรณา(ก)
ครูสายหยุด อมรรัตน์ อย่าขัดสน ครูถนอม ให้มากล้น วาสนา
อยู่กินดี เถิดนะจ๊ะ ครูชญา ศรีสุดา อย่าได้ขลุก ทุกข์ใจเลย
อาจารย์นิตย์ อย่าได้นิด ให้โชคมาก พรหลายหลาก ครูเอื้อมพร สุขเสวย
เรวดี ธิดารัตน์ให้ ใจเสบย สุพัฒน์เคย เคยครองสุข สุขทวี
จิระพร อรุณวรรณ ท่านครองสุข ให้ไร้ทุกข์ ครูพวงเพ็ญ เป็นสุขศรี
ครูฉลอง ครูผ่องสุข ขอสุขดี กิตตินันท์ อย่าได้มี ซึ่งทุกข์ภัย
กาญจนา ภาวนา ให้สมหวัง จุไรรัตน์ ครูเรียงยัง ปลอดโปร่งใส
เบญจวรรณ ครูสุภร ไม่ร้อนใจ ครูถนอม(ร) สุขมีให้ ทั่วทั่วกัน
ครูประภักดิ์ ครูเสงี่ยม เปี่ยมสุขล้น สุชาชล ให้ไร้ทุกข์ เปี่ยมสุขสรรค์
สุวินี ชื่นสราญ ชั่วกาลกัลป์ สมรนั้น ขออย่าโศก ให้โชคดี
รวินันท์ เฉลิมศรี ให้ดีคุ้ม อรวิภา ขอเทพคุ้ม ให้สุขศรี
ครูสุพิศ ครูถมยา วิภาสินี ขอจงมี มากรายรับ นับอนันต์
เนตรนภา ครูสมทรง จงสมหวัง ครูวันเพ็ญ ขนบยัง แสนสุขสรรค์
ธีระพงศ์ เป็นคนเก่ง ไปนิรันดร์ ศุภลักษณ์ ทุกวันคืน ชื่นจิตตน
ครูศรียา ครูรัตนา มัลลิกา นิตยา จงสุขศรี ทวีผล
ครูพิมพรรณ อรวรรณ เทพบรรดล ให้สุขล้น รัตนาภรณ์ เทพประทาน
นิรมล ครูพรรณี เสาวพัฒน์ อย่าติดขัด ในลาภยศ รับหวานหวาน
นันทพร ให้ดวงดี ฉวีวรรณ ครูวิชาญ วิไลลักษณ์ เทพรักษา
ครูสว่าง ขอให้ใส ใจหวางแหวว ครูเตือนใจ เฟื่องแก้วสมคิด จิตใฝ่หา
ครูเรืองรัตน์ ยุวพันธ์ จารย์นภา พัทธมน สุดา อย่าได้ขลุก ทุกข์ใดใด
นวลอนงค์ ครูมนูญ ให้พูนเพิ่ม เงินทองเติม ครูวารินทร์ สุขสดใส
ราชศักดิ์ สุวรรณา พาสุขใจ รูประไพ ประพจน์ก็ ขอสมจินต์
รัชนี นิรมล อนุรัตน์ ครูสุนี นัดกันสุข สมถวิล
ทั้งคนเก่ง คุณครูพล ผิวสีนิล ขอให้สิน มีหลายหลาก ให้มากมี
ครูสุภร ขอได้พร เทพเทวา ช่วยรักษา ให้สุขสม แสนสุขขี
ครูประไพ(ก) ครูวิมล สุมาลี จงอยู่ดี มีความสุข นะคุณครู
ครูธัญญะ ขอให้เบน เป็นฝ่ายรัฐ(บาล) ขออย่าขัด ให้เห็นด้วย จะสวยหรู
ทัศพร คัทยวรรณ ขวัญพธู ขอจงอยู่ อย่างร่มเย็น เป็นสุขใจ
ครูรัตนา ครูวานี ศรีอาภรณ์ วิวราวรณ์ ทัศนียา พาสุกใส
ครูพะยอม อย่าได้ยอม แพ้โพยภัย ขอก้าวไป อย่างราบรื่น ชื่นอารมณ์
ครูอัมพร พรจงมี ดีดีนะ ครูสุเพ็ญ ขอพรพระ(รัตน์) คอยอุ้มสม
ทั้งคุณครู รามฤดี ที่ชื่นชม คนนิยม มีเมตตา พระคุ้มกัน
ครูชิดคลอ ขอชิดสุข ทุกข์ห่างหาย ครูสมชาย สัมฤทธิ์ผล ตนใฝ่ฝัน
วราภรณ์ เสาวนิต สุขติดพัน ครูมณฑา สายฝนนั้น ขอจำเริญ
ครูวันศิน อย่าได้สิ้น ความสมหวัง นภาพร ขอให้ยัง คำสรรเสริญ
สุชะดา ให้สุขสรรค์ คืนวันเพลิน ขยันเกิน ครูไชยพร พรทวี
กาญจนา ครูมาใหม่ ให้สมหมาย จงขอให้ ได้บุตรดั่ง หวังสุขศรี
รัชนีกร ให้ได้พร มีสุขดี ขออย่ามี ความทุกข์รุก บุกโรมรัน
เปรม พยบ เทพอพยพ ความสุขให้ อรทัย น้อยอารมณ์ ให้สมฝัน
ลัพท์ขอให้ ความทุกข์ลับ ในฉับพลัน ทั้งชีพผ่อง ขอจงมั่น ในความดี
จิระพงษ์ ช่วงท่วงท่า สง่างาม รวมทั้งนอม ขอลามสุข ทุกข์แหนงหนี
ปิยะพงศ์ นายมังโสด โปรดจงมี โชคโชคทวี คุณมารุต สุดดีใจ
จเรอุทัย ขออย่าได้ ใจเรรวน ให้สุขล้วน จงบังเกิด สุขสดใส
คุณละม้าย มีความสุข ตลอดไป ขออำลา คราไคล ไปก่อนเอย
ครูการุณย์ สุวรรณรักษา
แต่งไว้เมื่อ 29 ธันวาคม 2541
หัดโง่ หัดนิ่ง หัดแพ้ หัดให้
หัดโง่
คนโง่ที่รู้ว่า ตนยัง โง่นา
มีโอกาสเฉลียวฉลาดดัง เด่นได้
คนโง่แต่อวดจัง ว่าฉลาด
คนอย่างนี้บอกให้ แน่แท้โง่จริง
หัดนิ่ง
นิ่งฟังคำติบ้าง เป็นไง
ฟังเสร็จได้นำไป ปรับแก้
คำชมไป่ให้อะไร สักนิด
มัวแต่ปลิ้มลืมแม้ กระทั่งรู้ตัวเอง
หัดแพ้
เมื่อประสบความพ่ายแพ้ ใดใด
อย่าเที่ยวไปแก้ตัวไป เปล่าปลี
แต่จงรีบยินดีใน ชัยชนะ เขานา
หัดให้
เริ่มวันใหม่มุ่งให้ ใครใคร
ให้สิ่งของให้อภัย เถิดเจ้า
ให้เสร็จย่อมสุขใจ อิ่มเอิบ
ให้เสร็จอย่ามัวเฝ้า จดไว้เปลืองสมอง
ยิ้ม ไหว้ ให้เกียรติ
ค่าของคน
พบใครมองที่ป้าย แขวนคอ
มองไม่เห็นแต่พอ อ่านได้
ว่าถึงอย่างไรขอ ให้เกียรติ กันนา
ถึงจะจนจากไร้ ย่อมรู้ค่าคน
ศักดิ์ศรี
ทุกคนย่อมอยากได้ ศักดิ์ศรี
จนยากหรือมั่งมี ไม่เว้น
ฐานะสูงต่ำก็ดี ไม่ต่าง กันนา
อย่ากีดกันด้วยเส้น แบ่งกั้นกันเอง
ไหว้ก่อน
พบใครรีบไหว้ก่อน เป็นดี
อย่างห่วงเรื่องศักดิ์ศรี มอดไหม้
ใครไหว้อย่ารอรี ไหว้ตอบ เขานา
ยึดมั่นประสานไหว้ ผูกไว้ตลอดกาล
ยิ้มเข้าไว้
ไมตรีเริ่มจากส่งยิ้ม แก่กัน
สมานรักผูกสัมพันธ มั่นไว้
โซ่เหล็กไม่แข็งขัน เท่ากับ ยิ้มนา
ยิ้มกับยิ้มเปรียบได้ โซ่คล้องครองใจ
วิกฤติ โอกาส ฟาดเคราะห์
เคราะห์
มีเคราะสะเดาะเคราะห์ให้ สบายใจ
แต่อย่านิ่งนอนใจ เคราะห์สิ้น
ใช้ปัญญาช่วยแก้ไข เคราะห์สร่าง
มัวแต่ปลิ้มเคราะห์ปลิ้น เปลี่ยนให้จมดิน
วิกฤติ
คนฉลาดเปลี่ยนวิกฤติให้ เห็นทาง
ไม่นั่งร้องครวญคราง ร่ำให้
มุ่งฝ่าอุปสรรคขวาง กางกีด
เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสได้ เลิศแล้วยอดคน เลิศแล้วยอดคน
โอกาส
คนอ่อนแอรอโอกาสให้ ลอยมา
คนแกร่งสร้างโอกาสพา สำเร็จได้
คนฉลาดฉกโอกาสหา จังหวะ
ใครจะรู้จักใช้ ย่อมได้เปรียบเอย
แพ้-ชนะ
ผู้แพ้จะนั่งเฝ้า ทางตัน
นั่งคร่ำครวญทั้งวัน หม่นไหม้
ผู้ชนะจะฝ่าฟัน อุปสรรค
มองทะลุทางออกได้ ดุจกล้องส่องทอง
ควรลืม ควรจำ นำสุข ทุกข์สิ้น
ลืมเรื่องเศร้า
ลืมเรื่องที่โศกเศร้า เสียใจ
เก็บกดไว้ทำไม เล่าเจ้า
อดีตที่ผ่านพ้นไป หวนกลับ ได้ฤา
มีแต่สิ่งปวดร้าว สลักไว้ในใจ
จำเรื่องดี
จำเรื่องที่ก่อให้ ใจสราญ
นึกเมื่อไรเบิกบาน ค่ำเช้า
เก็บไว้หลับฝันหวาน สดชื่น
มีแต่ทำให้เจ้า เจิดจ้าอารมณ์
เก็บแค้น-แน่นอก
นิ่งใดเคยเคียดแค้น ชิงชัง
ถมทับอกแทบพัง เพลี่ยงพล้ำ
มีแต่ทุกข์มาประดัง แน่นอก นาพ่อ
ไร้สุขกลับทุกข์ซ้ำ เก็บไว้ทำไม
แล้วไปอภัยกัน
เรื่องแล้วให้แล้วเสร็จ กันไป
มัวยึดโยงอยู่ใย ยีดเยื้อ
ตั้งจิตคิดให้อภัย เถิดพ่อ
จิตสดชื่นเพราะเกื้อ ก่อให้อภัยกัน
ชีวิตนี้ ชั่วดี มีจน ตนทำเอง
ชีวิตเที่ยงแท้แน่นอน
ชีวิตมนุษย์เที่ยงไท้ ทุกคน
สุดแต่บุญบาปดล แต่งให้
ทุกข์สุขร่ำรวยจน เกิดแต่ กรรมนา
กรรมชั่วกรรมดีไซร้ ส่งให้เป็นเอง
กรรมดี-กรรมชั่ว
ผลกรรมที่ชั่วช้า ทำไป
ยังไม่ส่งผลใด แต่เจ้า
ต่างยิ้มย่องผ่องใส ผยองยิ่ง
ตราบเมื่อบาปถึงเข้า จึ่งรู้รสกรรม
บุญหนุนนำ
สวดมนต์ทุกค่ำเช้า ได้บุญ
บุญจักน้อมนำหนุน ส่งให้
อิ่มเอิบจิตไพบูลย์ บานแบ่ง
กุศลจักเกิดด้วยได้ หากรู้ความหมาย
ไหว้พระ-ละกิเลศ
ฉันก้มกราบไหว้พระ ครั้งใด
จักไม่อธิษฐานขออะไร หรอกจ้า
กราบเสร็จจิตผ่องใส ไร้กิเลศ
พระไม่ใช่เป็นข้า รับใช้ใครใคร
เห็นหน้า - ไม่รู้ใจ - ใช้สติ
คนไม่คุ้นเคย
คนที่ยังไม่คุ้น เคยกัน
เพียงพบหน้าแค่วัน หนึ่งน้อย
อย่ารีบเร่งหุนหัน หลงเชื่อ
รอหน่อยค่อยเกี่ยวก้อย คบค้าสมาคม
ถึงคุ้นก็เหอะ
แม้คนที่รู้จัก มานาน
อย่าเที่ยวเชื่อคำขาน หยดย้อย
หวานชื่นสุดใดปาน เปรียบเท่า
หลงเชื่อมีไม่น้อย ชอกช้ำระกำใจ
คนซื่อ-คำขม
คนซื่อพูดเชื่อได้ หลายวลี
พูดไม่เพราะแต่มี คติบ้าง
คนซื่อพูดทื่อดี ไม่หลอก กันนา
พูดไม่หวานไม่สร้าง ทุกข์ให้ใครใคร
คนคด-คำหวาน
คนคดมักชอบใช้ คำหวาน
มาดมั่นแต่ใจมาร มุ่งร้าย
ฟังเสร็จไม่สอบทาน จักพบ วิบัตินา
ใครเชื่อคำพูดไซร้ มอดไหม้หมดตัว
น้ำพึ่งเรือ - เสือพึ่งป่า
หกล้มได้
อย่าคิดว่าชาตินี้ เป็นเศรษฐี
อย่าคิดว่าบารมี มากล้น
อย่าคิดว่ามีดี เด่นกว่า ใครนา
วันหนึ่งอาจไม่พ้น หกล้มจนดิน
ทำดีกับทุกคน
จงทำดีไว้กับ ทุกคน
ผูกสมัครจักเป็นมนต์ ผูกไว้
ยามทุกข์ยากอับจน คนจัก ช่วยนา
มัวหยิ่งคนหมั่นไส้ ปล่อยให้เดียวดาย
พึ่งพาอาศัย
คิดดูเรือพึ่งน้ำ ลำคลอง
เสือพึ่งป่าหมายปอง จับจ้อง
เกิดมาจักต้องมอง หมายเพื่อน พ้องนา
ถึงจะใหญ่ก็ต้อง ผูกคล้องครองใจ
มันบ่แน่
อย่าประมาทไม่ง้อ ใครใคร
โลกช่างเปลี่ยนแปรไป แปลกแท้
ยามรวยกลับจนใน เพียงพริบ ตาเดียว
ถึงใหญ่กลับสิ้นแม้ เพื่อนพ้องสักคน
หยุดรถ - ให้คน - ข้ามถนน - ทางม้าลาย
"ทางม้าลาย" มีไว้เพื่อ ให้คน ข้ามนา
คนขับกลับไม่สน หยุดให้
เร่งเครื่องบีบแตรจน คนตก ใจนา
ทั้งกฏหมายมีไว้ ฝ่าได้ ฝืนดี
เด็กข้าม
สงสารเห็นเด็กน้อย ข้ามถนน
คนแก่คนทุพพล ภาพจ้อง
ยืนรอหวั่นรถชน ชีพดับ
ใครจะมาช่วยป้อง ปัดให้พ้นภัย
คนจนข้าม
เพราะจนจึงหาบหิ้ว ข้างถนน
ร้อนแดดแผดเผาจน เหงื่อย้อย
หนักและเหนื่อยแถมฝน ชุ่มร่าง
เมตตาจิตมีเหลือน้อย แย่แล้วสังคม
เมตตากรุณา
"เมตตา" คือ ช่วยให้ เป็นสุข
"กรุณา" ช่วยให้พ้นทุกข์ หักห้าม
ตื่นเถิดช่วยกันปลูก จิตสำนึก หน่อยนา
หยุดรถให้คนข้าม กุศลล้ำเหลือหลาย
ใครติดหนี้ร้านค้าไว้เยอะๆ ก็คงจะต้องรีบจ่ายคราวนี้แหละครับจ่ายเก่า เอาใหม่ ใครจะว่า ท่านเซ็นมา เราก็ให้ ไม่เคยฝืน
ถึงเวลา โปรดมาจ่าย ให้ยั่งยืน อย่าทำมึน จะผิดใจกัน มันไม่ดี
จาก ... ทุเรียนก้านส้ม ครัวอาจารย์คง สระบุรี 16/6/2555 15 : 49
" อันอำนาจใดใดในโลกนี้
ไม่เห็นมีเปรียบปานการศึกษา
สร้างคนหาค่ามิได้ในโลกา
ขึ้นจากผู้ที่หาค่าไม่มีฯ "
" อันตึกงามกับสนามกว้างสร้างขึ้นได้
มีเงินหยิบโยนให้ก็เสร็จสรรพ์
แต่งามจิตใจกว้างนั้นต่างกัน
การอบรมเท่านั้นเป็นปัจจัยฯ "
หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล
กลอนสามท่อนเรื่อง "องค์การแห่งการเรียนรู้" (Learning Organization)
องค์การแห่งการเรียนรู้ เปิดประตุความรู้ยุคใหม่ มีวินัยห้าประการ
โดยกูรูผู้รู้ท่านคิดอ่าน ผู้เชี่ยวชาญท่านพบเจอ คือเปีเตอร์ เซงเก้ (Peter Senge)
จากผลงานวารสาร บิวสิเนสสเตรทเตอร์จี้ ได้พาทียกย่องว่า
"นักกลยุทธ์แห่งศตวรรษ ท่านเจนจัดศึกษา ทั่วพาราองค์การ
ต้องสามารถปรับตัว ไม่ควรกลัวเปลี่ยนแปลง โดยจัดแจงวิจัย
เป็นเวลาหลายปี เอ็มไอทีศึกษา จากตำราที่แต่ง
ที่โด่งดังสารทิศ โดยความคิดเฉียบคม เพื่อผูกปมความรู้
ภายใต้ชื่อเรียกขาน วินัยข้อที่ห้า คือ "The Fifth Discipline"
ตีพิมพ์ร่วมล้านเล่ม มุ่งจัดเต็มจำหน่าย ในปี 1970
ในนิยามคำว่า "วินัย" เทคนิคใช้ใคร่ครวญ คอยทบทวนทุกเวลา
นำมาใช้ปฏิบัติ เพื่อคัดสรรพัฒนา เพื่อศึกษาทักษะ
รวมทั้งแก่นสมรรถนะ ชัยชนะเพื่อองค์การ เพิ่มชำนาญสามารถ
เพื่อนวัตกรรมใหม่ ต่อยอดไซร้สำเร็จ เป็นบำเหน็จรางวัล
เหมือนต่อภาพจิ๊กซอ เพื่อเติมต่อความคิด สิ่งประดิษฐ์สมัยใหม่
เป็นสะพานก้าวไกล ชาติวิไลรู้คิด ต่อภาพติดคิดไกล
จนได้เกิดภาพใหม่ แนวทางได้ผลิต เพื่อชีวิตคุณภาพ
วินัยห้าประการ ที่คิดอ่านแยบยล อันเป็นผลเรียนรู้
หนึ่งเป็นเจ้าความคิด (personnel mastery) จากประดิษฐ์เรียนรู้้ ที่กูรูคอยกำกับ
ก่อให้เกิดความชำนาญ เป็นสะพานวิสัยทัศน์ ที่คอยคัดความคิด
ในปัญญาประดิษฐ์ จากสะกิดชั่วแวบ สร้างเป็นแบบตัวอย่าง
เกิดรอบรู้แห่งตน ก่อเกิดผลแรงใจ พลังในอำนาจ
นำเหตุผลเชื่อมต่อ เชื่อมกับท่อหยั่งรู้ นำไปสู่เชื่อมโยง
กับความรู้ตัวเรา เมื่อเทียบเอากับโฉลก โลกภายนอกตัวตน
ต้องมีจิตเมตตา เป้าหมายหนาชัดเจน ความโดดเด่นงานองค์การ
สองต้องมีแผนคิดอ่าน (mental model) มีพื้นฐานความเชื่อ ไม่คอยเบื่อครุ่นคิด
เกิดภาพลักษณ์ตกผลึก มาจากนึกปรุงแต่ง เข้าใจแจ้งสรรพสิ่ง
มีผลต่อการเข้าใจ สังคมในค่านิยม ที่ผสมทัศนคติ
มีต่อบุคคลคนอื่น โดยไม่ฝืนสิ่งแวดล้อม ต้องตะล่อมกลมกลืน
แยกแยะสิ่งที่เชื่อ ในทุกเมื่อสิ่งที่ทำ คอยหนุนนำเพิ่มเติม
เพื่อขยายสร้างเสริม จากแนวเดิมสู่แนวใหม่ ด้วยเข้าใจความคิด
ในทัศนะของคนอื่น จากไหลลื่นผลสะท้อน วิพากย์ย้อนทบทวน
เนื่องความคิดมีจุดอ่อน ต้องคอยป้อนต่อเนื่อง เกิดประเทืองปัญญา
สามมีวิสัยทัศน์ร่วม(Shared Vision) เป็นผลรวมของภาพ ที่รับทราบทุกคน
นำไปสู่ภาพอนาคต ไม่จับจดลังเล ทุ่มใจเทร่วมกัน
ต้องคอยขายความคิด เพื่อสะกิดผู้อื่น ให้คอยตื่นตามเรา
ทำให้ภาพเป็นจริง ด้วยมุ่งอิงปัจจุบัน มุ่งสร้างสรรค์เชิงรุก
ทำงานก้าวไปข้างหน้า ไม่มุ่งมารั้งรอ ต้องกล้าก่อกล้าคิด
ต้องกล้านำเปลี่ยนแปลง ต้องแสดงกล้าเสี่ยง ต้องไม่เลี่ยงทดลอง
มีทิศทางถูกต้อง และสอดคล้องความจริง ขับเคลื่อนวิ่งเร็วไว
ทั้งประหยัดปลอดภัย โดยมีใจมุ่งมั่น เป็นบันไดก้าวไกล
สี่การเรียนรู้เป็นทีม (Team Learning) เร่งสตรีมฝึกปรือ มุ่งยึดถือทำเป็นทีม
ต้องเก่งกว่ารายบุคคล มุ่งฝึกฝนสนทนา ถ้อยวาจาอภิปราย
มีความเชื่อและศรัทธา พัฒนาทิศทาง เป้าหมายทางเดียวกัน
ยอมรับความแตกต่าง ไม่ถากถางความคิด โดยมุ่งติดตัวตน
ต้องเปิดใจเปิดกว้าง ความกระจ่างแนวทาง เป็นแบบอยางร่วมกัน
ไม่คอยข่มผู้อื่น คอยหยิบยื่นคำถาม เพื่อติดตามทบทวน
ควรแลกเปลี่ยนความคิด เพื่อประดิษฐ์ทางเลือก สร้างเกลียวเชือกสัมพันธ์
ต้องเรียนรู้แบ่งปัน การสร้างสรรค์แนวใหม่ องค์การไซร้ยั่งยืน
ห้ามีความคิดเชิงระบบ(System Thinking) ต้องเจนจัดบวรยุทธ์ การก้าวรุดไปข้างหน้า
มีความคิดต่อเนื่อง อันเป็นเรื่องกระบวนการ บริหารเชื่อมโยง
ต้องเรียนรู้เท่าทัน คิดสร้างสรรค์เป็นระบบ ด้วยมองครบกลไก
ที่เกี่ยวก้อยส่วนย่อย ต้องมุ่งคอยสังเกต อันเป็นเหตุปัญหา
ในมิติเวลาสถานการณ์ ที่ผันผ่านเปลี่ยนไป ต้องแก้ไขทันเกม
ต้องคิดแบบกลยุทธ์ ต้องคิดรุดทันกาล เล็งเห็นการโอกาส
จากแนวคิดที่ผิดพลาด ความคิดขาดไม่ต่อ ต้องถักทอต่อเนื่อง
ในวินัยที่กล่าวมา วินัยห้าสำคัญ ที่สร้างสรรค์องค์การ
tawipan999
จรรยาบรรณ
คือความดี ความงาม ความหมดจด คือคำหยาด เกียรติยศ อันสะท้าน
คือคำนิยม อุดมคติ ปณิธาน คือหลักการ สำหรับ กำกับใจ
คือ กฎ กติกา แห่งอาชีพ คือแสง ดวงประทีป สว่างสไว
คือวิถี นิติธรรม เรืองรำไร ประพฤติเถิด ประพฤติใน จรรยาบรรณ
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
หลักบริหารของท่านนิพนธ์ เทพนรินทร์ รอง ผอ. สพป.สบ.1
ตีนเหยียบหลังเต่า ทำงานอย่าช้า ศึกษาเรียนรู้งาน ไม่รู้ถาม Google หรือ Wikipedia
ปากเห่าตัวแลน รู้จักประชาสัมพันธ์ตนเองทั้งในและนอกองค์กร
หน้าแหงนมองมิ้ม มีวิสัยทัศน์ ดูคนอื่นเขาเป็นอย่างไร เขาทำอย่างไร จุดเด่น จุดขายคืออะไร
for whom, what to do, what to be
หางทิ่มรูหนู หยั่งตัวเองว่าประมาณไหน เราอยู่ในระดับใด วัดและประเมินผลตนเอง
รู้สถานภาพ บทบาท หน้าที่และความรับผิดชอบ
หูฟังเสียงนาย ดูนโยบายของผู้บังคับบัญชา